วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Nc-สะบัดพู่กันเขียนราชโองการ


Nc-สะบัดพู่กันเขียนราชโองการ

ข้าไม่มีวันให้ผู้อื่นเห็นเรือนร่างของเจ้าแน่นอน” เจ้าจินเกอกระซิบข้างใบหูของเจ้าลูกแมวน้อยแล้วกัดเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว “ให้ข้าได้หรือไม่จิวเมิ่ง ขอให้ข้าได้รักเจ้า”


อ๊ะอ๊า...” เสียงร้องครางหลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มขององค์ชายสามเมื่อถูกมือใหญ่สัมผัสที่ยอดอกข้างหนึ่ง “จินเกอข้ายังไม่อนุญาตเลยนะ”


ถ้าเช่นนั้นข้าจะทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าจะตอบตกลง ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทนได้กี่น้ำ” 


เจ้าจินเกอ กล่าวก่อนจะยื่นมือไปลูบผิวเนื้อที่ต้นขาด้านในขององค์ชายสามที่นั่งอยู่บนตัวของเขา มือหนากุมส่วนที่อ่อนไหวของจิวเมิ่งแล้วรูดรั้งขึ้นลงอย่างไม่เร่งรีบทว่าทำพร้อมกันกับมืออีกข้างที่ขยี้ยอดอกสีสวยด้านบน จังหวะทั้งสองสอดรับประสานกันจนชินอ๋องจวนจิวฮวาเสียวซ่านดวงตาพร่ามัวแทบจะคุมสติเอาไว้ไม่อยู่


จิน...เกอ เร็วหน่อย” เจ้าของเรือนออกคำสั่ง ทว่าผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเก้าอี้กลับไม่ทำตามอีกทั้งยังหยุดมือไม่ทำต่อไปอีกด้วย


หากอยากให้ข้ารัก เจ้าต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน” จินเกอลูบเอวของเจ้าลูกแมวบนตัก แล้วเอ่ยบอก “คุกเข่าลงแล้วทำให้ข้าพอใจก่อนสิเด็กดี”

จิวเมิ่งที่นั่งบนตักแกร่งเบิกตากว้าง ใบหน้าเล็กขึ้นสีน่ามองยิ่งกว่าเดิม เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้มนุษย์แล้วย่อตัวลงเบื้องหน้าของเจ้าจินเกอ จากนั้นค่อยเอื้อมมือไปปลดเชือกรัดเอวของอีกฝ่ายออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ


เจ้าจินเกอเห็นเช่นนั้นก็จ้องมองเขาอย่างไม่วางตา มุมปากของแม่ทัพเจ้ายกขึ้นอย่างพอใจ เมื่อเขายื่นมือไปสัมผัสแท่งหยกพันปีแล้วค่อย ๆ อ้าปากแลบลิ้นไล่เลียส่วนหัวอย่างเชื่องช้า ท่าทางเงอะๆ งะๆ ขององค์ชายน้อยทำให้คนข้าบนเอ็นดูยิ่ง


เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าคงต้องรักเจ้าแรงๆ แล้วล่ะ” เมื่อกล่าวจบ มือหนายื่นไปช้อนคางเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับตน ก่อนจะโน้มตัวแล้วกดริมฝีปากลงไปบดเบียดเรียวปากอวบอิ่มอย่างร้อนแรงดุดัน


มือหนาสอดรั้งใต้รักแร้ขององค์ชายสามออกแรงยกจนจิวเมิ่งตัวลอย แม่ทัพเจ้าดึงร่างน้อยไปโอบกอด จูบริมฝีปากนุ่มอย่างล้ำลึกแล้ววางร่างเล็กลงบนโต๊ะตัวใหญ่โดยไม่สนใจว่างบนนั้นจะมีราชโองการที่เพิ่งประทับตราเสร็จหมาดๆ วางอยู่


แม่ทัพใหญ่กวาดของทุกอย่างลงจากโต๊ะแล้วโถมร่างเข้าแนบชิดกับชินอ๋องน้อยป้อนจูบหวานให้คนใต้ร่างอย่างโหยหา จินเกอปลดอาภรณ์บนร่างของจิวเมิ่งออกจนหมดก่อนจะ ค่อยๆ สอดนิ้วหนึ่งเข้าไปในช่องทางด้านหลัง อีกมือลวงหยิบตลบน้ำมันหอมในอกเสื้อมาเปิดใช้ นิ้วมือป้ายของที่เตรียมมาสอดลึกเข้าไปด้านในตัวของเจ้าลูกแมวซ้ำๆ พลางจูบปลอบปากนุ่ม ก่อนจะเลื่อนมือไปประคองความกลมกลึงทั้งสองจับแหวกออกแล้วดันตัวเข้าไป


จิวเมิ่งรู้สึกเจ็บจนหายใจหอบถี่


เขาค่อยๆ ปรับตัวกับสิ่งใหญ่โตที่ทิ่มแทงเข้ามาในร่างอย่างกะทันหัน จากนั้นไม่นานความรู้สึกบางอย่างก็ไต่ขึ้นมาแทนความเจ็บปวดในคราแรกแทน


เจ็บหรือไม่?” แม่ทัพเจ้าเอ่ยถามคนใต้ร่างอย่างห่วงใย ก่อนจะยกยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นเจ้าลูกแมวน้อยส่ายหน้าไปมาอีกทั้งยีงเอื้อมแขนมากอดคอตนเองจึงเพิ่มความเร็วขึ้น


อ๊า...จินเกอ...จินเกอ...อื้อ” จิวเมิ่งร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดังลั่นห้อง เจ้าจินเกอทำให้เขายากจะรับไหว ถูกไล่จี้จุดที่ทำให้บ้าคลั่งอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไล่บดขยี้ไม่จบสิ้น ความรู้สึกเสียวซ่านทำให้ท่อนขาเรียวขาวผ่องทั้งสองข้างสั่นเทาไม่หยุด ไม่ต่างจากโต๊ะที่ถูกแรงกระทำของบุรุษด้านบนโยกไปมาจนเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด


เจ้าจินเกอจูบไล้เล็มจากหน้าอกขึ้นไปที่ปลายคาง ข้างแก้มคนรักอย่างรักใคร่ แม่ทัพใหญ่สูดลมหายใจร้องผะผ่าว ซบใบหน้าข้างใบหูจิวเมื่ง แล้วพรมจุมพิตลงไปบนคอ ก่อนจะกล่าวว่า ข้าคิดถึงเจ้า”


จิวเมิ่งส่งเสียงร้องครางออกมา เพราะความเร็วของจังหวะด้านล่างที่สอดลึกเข้าออกนั้นไม่ได้เชื่องช้าอ่อนหวานเฉกเช่นการกระทำด้านบน ตัวเขาสั่นสะท้านตลอดเวลา ต่างฝ่ายต่างแลกจุมพิตกันอย่างเร่าร้อน จนจิวเมิ่งเริ่มหายใจไม่ทัน ไม่นานนักกระแสน้ำอุ่นร้อนสายหนึ่งก็แล่นเข้าสู่ช่วงทางอ่อนนุ่มเช่นเดียวกับองค์ชายน้อยที่ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน


จิวเมิ่งที่อ่อนแรงถูกแม่ทัพใหญ่อุ้มขึ้นแล้วเดินไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านข้าง เขาแนบใบหน้าซบกับแผงอกแกร่ง แนบชิดจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวแรงอย่างทรงพลัง


ข้าเองก็คิดถึงท่าน คิดถึงท่านใจจะขาด”


ถ้าเช่นนั้นให้ข้ารักเจ้าอีกครั้งนะคนดี” 


เจ้าจินเกอกล่าวแล้ววางเจ้าลูกแมวลงบนเตียง ร่างสูงใหญ่นอนโอบกอดคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง ทั้งสองอยู่ในท่านอนตะแคง มือหนาจับขาขององค์ชายสามยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะดึงดันเข้ามาในช่วงทางอ่อนนุ่มอีกครา


เขาหวีดร้องเมื่อแม่ทัพใหญ่สกุลเจ้าขยับกายสอดใส่เข้าออกอย่างรู้ใจ ค่อยๆ เข้าไปแล้วถอนตัวออกซ้ำๆ จนเขารับรู้ได้ว่ามันแทรกลึกเข้าไปกระทบข้างในร่างตัวเองอย่างไร ความรู้สึกเสียวซ่านกลับมาจู่โจมอีกหนเมื่อถูกอีกฝ่ายโถมกายเข้าออกอย่าดุดันราวกับสัตว์ป่าที่ยังหิวกระหายไม่เลิก


ชู่ว อย่าเสียงดังไป ฟ้ายังสว่างอยู่ข้ากลัวว่าข้ารับใช้จะได้ยินเสียงเจ้า” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็เบะปากให้คนด้านหลังที่ยังคงกระแทกกระทั้นไม่อยู่


ทะ...ท่าน ท่านนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุ อ๊า!” 


ใบหน้าของจิวเมิ่งแดงก่ำในขณะริมฝีปากเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วต่อว่าอีกฝ่าย ก่อนจะรู้สึกคล้ายกับว่าหน้ามืดไปวูบหนึ่ง แล้วหวีดร้องสุดเสียงเมื่อถูกจินเกอแทรกกายเข้าลึกกว่าเดิมแล้วบดคลึงต่ออย่างดุดัน


เสี่ยวเมิ่งทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าออกตัวสั่นระริก ไม่ต่างจากช่องทางด้านหลังที่หดเกร็งถี่ สายตาเลื่อนลอย ด้านหน้าก็หลั่งออกมาจนกระตุกตัวปลดปล่อยออกมาอีกครา


เจ้าจินเกอผละออกจากตัวเขาแล้วขึ้นคร่อมร่างน้อยพรมจุมพิตซ้ำๆ ด้วยความรักและทะนุถนอม ก่อนจะกล่าวข้างใบหูเล็กด้วยเสียงนุ่มข้ายังไม่พอ”


แต่ข้าไม่ไหวแล้ว” เขาเอ่ยขอร้องอีกฝ่าย แต่ก็ได้แต่ขอเท่านั้นแหละเพราะเจ้าจินเกอไม่คิดจะหยุดรังแกเขาง่ายๆ เพราะในยามนี้แม่ทัพใหญ่รู้สึกแต่เพียงว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ล้วนไม่พอ


แม้ดวงตะวันจะตกจากฟากฟ้า ท้องนภาเปลี่ยนสี....ยังอีกยาวไกลนัก



-กลับไปต่อที่เด็กดีเจ้าค่ะ-