วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2562

NC:จิวฮวา #กุกมินไร้พ่าย


NC:จิวฮวา #กุกมินไร้พ่าย -บุปผาบานสะพรั่ง-




-nc-บุปผาบานสะพรั่ง




พยัคฆ์หนุ่มแนบริมฝีปากลงกับหน้าผากอุ่นของคนรัก พลางปลดเสื้อตัวนอกของจิวเมิ่งออกจนอีกฝ่ายเนื้อตัวเปลือยเปล่า


จิวเมิ่งทำตัวไม่ถูก เมื่อถูกแม่ทัพไร้พ่ายผู้ดำรงตำแหน่งเป็นถึงชินอ๋องมาปรนนีบัติรับใช้เขาอาบน้ำเยี่ยงนางกำนัลและขันทีเช่นนี้ นี่ไม่ดีเลย...ทว่าไม่ทันได้เอ่ยห้าม จินเกอก็บิดผ้าชุบน้ำอุ่นถูเนื้อตัวให้เขา ใช้น้ำล้างสิ่งสกปรกออก แม้กระทั่งรอยแผลที่เปื้อนเลือดเองก็ถูกอีกฝ่ายเช็ดล้างออกจนหมด


เจ้าอยากให้ข้าทำอะไรจงเร่งสั่งมา” แม่ทัพใหญ่แห่งแว่นแคว้นเอ่ยบอก

ในยามนี้ชินอ๋องเจ้าจินเกอกำลังคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่เบื้องหน้าเขาที่บัดนี้ไร้อาภรณ์ใดคลุมกาย


แม้ว่าเขาจะเขินอายไม่น้อยที่เนื้อตัวเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย แต่การที่พยัคฆ์ไร้พ่ายผู้นี้คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเขา ปรนนีบัติกับเขาอย่างระมักระวังราวกับเขาเป็นเจ้านายผู้สูงศักดิ์คนหนึ่ง

บุรุษผู้อหังการที่ทั้งใต้หล้ายอมสยบกำลังวางศักดิ์ศรีก้มหัวลงให้เขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น เจ้าจินเกอยอมให้เขามาถึงเพียงนี้จะให้เขามัวขัดเขินได้หรือ...

ตอนนี้ท่านอ๋องเจ้าจะเล่นบทเป็นข้ารับใช้ แล้วให้ข้าเป็นนายน้อยของท่านหรือ?” จิวเมิ่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า


เจ้าอยากให้ข้าเป็นวัวเป็นควายข้าก็จะเป็นให้ ขอเพียงแค่เจ้าสั่งมาเท่านั้น” คาดไม่ถึงว่าคำตอบของผู้หยิ่งทะนงเช่นเจ้าจินเกอจะตอบกลับมาเช่นนี้ การกระทำของอีกฝ่ายหลังจากกล่าวจบชวนให้ตกตะลึงยิ่งกว่า

ชินอ๋องตระกูลเจ้าโน้มตัวลงจรดริมฝีปากลงบนข้อเท้าขาวของจิวเมิ่งอย่างแผ่วเบา...ในใจของจิวเมิ่งแทบจะระเบิดตูมตามออกมาด้านนอก


ทั้งที่เจ้าจินเกอสูงศักดิ์ปานเขาไท่ซาน บุรุษผู้นี้กลับกดตัวเองลงมา ยอมเป็นวัวเป็นควายให้เขาดั่งที่กล่าวจริงๆ

อย่าทำเช่นนี้ ท่านเป็นคนรักของข้าไม่ใช่ข้ารับใช้” เขาอ่ยเสียงสั่น พลางหดขาเข้าหาตัว ทว่าจินเกอกลับโอบรั้งขาทั้งสองข้างของเขาไว้เสียก่อน


เป็นสิ่งที่ข้าต้องการทำ จิวเมิ่งข้าอยากจูบเจ้าทั้งตัว ไม่ใช่แค่ข้อเท้าข้างนี้เท่านั้น

...

ที่ข้าจะจูบคือฝ่าเท้าทั้งสองข้างของเจ้า ข้อเท้า แขนขา ฝ่ามือเล็กน่ารักคู่นี้  ก่อนจะไล้เลียชมรสหวานของเม็ดเล็กๆสีสวยที่หน้าอกทั้งสองของเจ้า ขบเม้มไปทั่วลำคอขาว ใบหูทั้งสอง สูดกลิ่นหอมที่แก้มกลมๆของเจ้า แล้วจุมพิตริมฝีปากอวบอิ่ม ขออยากประทบตราความเป็นเจ้าของว่าดวงตาคู่นี้ของเจ้า เรือนผมงามที่ข้ากำลังลูบไล้มันอยู่ในตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งร่างกายและหัวใจของเจ้าข้าล้วนมีเป็นเจ้าของ ข้าหวังว่าเจ้าจะให้ข้าได้เป็นเจ้าของทั้งหมดนั้น

แม่ทัพเจ้าเอ่ยวาจาแสดงว่าต้องการของตนออกมาทั้งหมด ดวงตาคมของพยัคฆ์จับจ้องเรือนร่างเปลือยเปล่าของเขาอย่างไม่วางตา จ้องมองจนผิวเนื้อของเขาร้อนผ่าว

ใบหน้าขององค์ชายสามแดงก่ำ เมื่อสบสายตาเข้ากับดวงตาร้อนแรงที่จ้องมองของเจ้าจินเกอ จิวเมิ่งต้องขบเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นความขวยเขิน


จิวเมิ่ง” มือสากลูบแก้มองค์ชายสามอย่างแผ่วเบา เจ้าลูกแมวแนบแก้มลงกับมือข้างนั้นอย่างออดอ้อนรอฟังคำพูดต่อไปของอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ “เป็นของข้าได้หรือไม่


ทุกอย่างของข้าล้วนเป็นของท่านมานานแล้ว ท่านไม่จำเป็นลดเกียรติของตนลงถึงเพียงนี้เลย


ข้าตั้งใจวางหัวใจไว้บนมือของเจ้าแล้ว เลือดเนื้อ เกียรติ ศักดิ์ศรี ทั้งหมดย่อมต้องมอบให้เจ้าด้วย


ถ้าเช่นนั้น ข้าขอสั่งท่าน” จิวเมิ่งเชิดปลายคางขึ้นเล็กน้อย ยกนิ้วชี้ขึ้นไปจี้มบนอกอกแกร่งของอีกฝ่ายพลางออกคำสั่ง “ถอดเสื้อผ้าออกเสีย


ขอรับนายน้อย” จินเกอตอบรับคำสั่ง

มือหนาปลดเชือกคาดเอวออก ถอดเสื้อตัวนอก ก่อนจะสะบัดอาภรณ์ตัวในออกตามอย่างรวดเร็ว ร่างกายกำยำปรากฏแก่สายตาของเขาอย่างเต็มตา กล้ามแขนแน่น แผ่นอกหนา กล้ามหน้าท้องของแม่ทัพเจ้าเรียงตัวกันสวยงามราวกับภาพวาดของปรมาจารย์ศิลปะแห่งยุค และเมื่อเขาไล่สายตาลงไป...จิวเมิ่งก็พบกับแท่งหยกพันปีของท่านแม่ทัพ

ขนาดเหมาะสมกับสมญานามพยัคฆ์ผู้ไร้พ่าย อาวุธส่วนนั้นของเจ้าชินอ๋องมิแพ้ผู้ใด

เขาไม่ได้เขินอายม้วนเป็นสตรีแรกรุ่นที่เห็นตรงนั้นของเพศชายแล้วกรีดร้อง จิวเมิ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้เล็ก พลางขยับกายเข้าไปสัมผัสรอยแผลเป็นที่อยู่บนร่างกายพยัคฆ์ไร้พ่ายผู้นี้สัมผัสทีละรอยอย่างใส่ใจยิ่ง


รอยแผลเป็นมากถึงเพียงนี้ ในยามนี้ยังเจ็บปวดอยู่หรือไม่” เขาเอ่ยถามพลางลูบแผลเป็นขนาดใหญ่ที่อยู่บนหน้าอกซ้ายของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ไม่กล้าคิดเลยว่าเหตุใดบนร่างกายของคนๆนี้จะเต็มไปด้วยร่องรอยคมหอกคมดาบมากขนาดนี้


ไม่เจ็บแล้ว แผลที่หน้าอกนี้ที่เจ้าสัมผัสอยู่ ข้าได้มาตอนอายุสิบห้า หลังจากที่บิดาข้าถูกสังหารข้าจึงต้องนำทัพออกรบแทน แม่ทัพฝ่ายศัตรูแทงข้า ข้าบาดคอมันคืน นับเป็นบาดแผลแห่เกียรติยศ” จินเกอเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ ทว่าช่างหนักหน่วงหัวใจผู้ฟัง


เด็กชายอายุแค่สิบห้าคนหนึ่ง สูญเสียบิดาในสงคราม อีกทั้งยังต้องเข้าสู่สนามรบตัดสินเป็นตายกับศัตรูนับแสนตั้งแต่ยังเยาว์

เจ้าจินเกอนับว่าจิตใจแข็งแกร่งดุจหินผา หากเปลี่ยนเป็นตน เกรงว่าคงไร้ลมหายใจ ตายอยู่ในสมรภูมินานแล้ว


จิวเมิ่งลูบแผลเป็นขนาดใหญ่นี้อีกครา ก่อนตัดสินใจโน้มตัวจรดริมฝีปากลงบนรอยแผลเป็นนั้น เขาได้ยินเสียงหัวใจของแม่ทัพใหญ่เต้นผิดจังหวะ จิวเมิ่งยกแขนอ้าออกก่อนจะโอบกอดร่างกายสูงใหญ่ของอีกฝ่ายไว้แน่น หวังว่าอ้อมกอดนี้ของตนจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่ผ่านมาทั้งหมดของอีกฝ่ายได้บ้าง

ให้ข้าเป็นของท่านเถอะท่านจินเกอ


เสี่ยวเมิ่ง” น้ำเสียงของท่านแม่ทัพแหบพร่า ใบหูเปลี่ยนสี

ไม่รอช้าจินเกอโอบรัดเจ้าลูกแมวแน่น ก่อนจะฝั่งหน้าลงขบเม้มเนื้ออ่อนบนไหล่เนียนอย่างหมั่นเขี้ยว เสียงอื้ออึงของจิวเมิ่งดังอยู่ข้างหูปลุกเร้าอารมณ์ของพยัคฆ์หนุ่มพุ่งพล่าน จนเส้นความอดทนขาดสะบั่น


จิวเมิ่งตอบรับสัมผัสหนักหน่วงของอีกฝ่ายด้วยการโอบรอบคอของพยัคฆ์หนุ่ม พลางแนบริมฝีปากอุ่นร้อนนุ่มนวลหยอกเย้าพัวพันกับจินเกอ

บุรุษผู้หนึ่งถูกคนในดวงใจจุมพิตเอาอกเอาใจเช่นนี้ เป็นผู้ใดก็ยากจะทานทน สิ่งใหญ่โตตรงหว่างขาของแม่ทัพเจ้าก็ค่อยๆแข็งขึ้น ลมหายใจทั้งสองค่อยๆ ถี่กระชั้น มือหยาบของจินเกอค่อยๆลูบไล้ไปสัมผัสทั่วร่างของจิวเมิ่ง

เพราะเกรงว่าบาดแผลที่ต้นขาจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ เจ้าชินอ๋องจึงโอบตัวเจ้าลูกแมวอุ้มขึ้นแนบอก ก่อนจะเดินดุ่มๆออกจากม่านกั้น

จินเกอวางร่างน้อยลงบนเตียงนอน ก่อนจะคร่อมทับจิวเมิ่งจนไร้ช่องว่าง ริมฝีปากอุ่นร้อนจูบยอดอดเล็กอย่างแผ่วเบา แล้วใช้ปลายลิ้นหยอกเย้า

จิวเมิ่งกลั้นเสียงร้องไว้ในลำคอจนใบหน้าแดงฉาน จินเกอเห็นเช่นนั้นจึงจูบลงไปตามทรวงอก ไล้ลงไปถึงหน้าท้องเนียนขบเม้มริมฝีปากถ่ายทอดน้ำหนักลงเล็กน้อยให้เกิดรอยแดงสองสามรอย เมื่อเขาพอใจแล้วจึงเลื่อนใบหน้าลงไปจับจ้องจิวเมิ่งน้อยที่หว่างขาของเจ้าลูกแมว 

จะ..จินเกอ” องค์ชายสามเสียงสั่นเมื่อขาทั้งสองขาถูกแม่ทัพใหญ่แห่งแว่นแคว้นจับแยกออกจากกัน ลมหายใจของจิวเมิ่งติดขัดเมื่อถูกอีกฝ่ายจับจ้องไปที่ส่วนอ่อนไหวของร่างกาย

จินเกอลูบไล้ส่วนอ่อนไหวอย่างเอาใจใส่ยิ่ง ก่อนจะหันข้างไปหยิบกล่องใบเล็กที่วางอยู่ข้างที่นอนมาเปิดใช้

ที่แท้ท่านเตรียมมันไว้แต่แรก!” จิวเมิ่งเอ่ยเสียงดังจนเกือบจะกลายเป็นเสียงตะโกนเมื่อเห็นว่าภายในกล่องนั้นคือสิ่งใด



หากไม่มีสิ่งนี้เจ้าอาจลุกจากเตียงไม่ได้เป็นเดือน” จินเกอกล่าวพลางแตะไขน้ำมันหอมที่ได้มาจากประมุขหอนางโลมคงเทียนฮั่ว ทาลงบนประตูหลังของเจ้าลูกแมว ก่อนจะโน้มตัวไปจุมพิตริมฝีปากอิ่มแล้วสอดนิ้วเข้าไปภายในช่องทางด้านหลังของเสี่ยวเมิ่งอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว


กลิ่นไขน้ำมันหอมที่มีส่วนผสมเกสรดอกไม้ ส่งกลิ่นหอมสดชื่นจนจิวเมิ่งเคลิ้มฝันไปกับสิ่งที่จินเกอกำลังลงมือปรนนิบัติตน พยัคฆ์หนุ่มสอดนิ้วเข้าออกอยู่เกือบครึ่งชั่วยาม ก็คาดคะเนว่าเจ้าลูกแมวของเขาคงพร้อมแล้วจึงทาไขน้ำมันหอมลงบนแท่งหยกของตนเองจนชุ่ม

แม่ทัพเจ้าไม่เอ่ยกล่าววาจาใด เขาจับขาของจิวเมิ่งแยกออกกว้างก่อนจะค่อยๆดุนดันสิ่งนั้นของตนเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มของเสี่ยวเมิ่งอย่างเชื่องช้า


องค์ชายน้อยรู้สึกตัวตอนที่สิ่งใหญ่โตนั้นถูกสอดใส่เข้ามา ความจุกเสียดทำให้เขาขมวดคิ้วเป็นปม กล้ามเนื้อบริเวณช่องทางด้านหลังเคร่งเครียดเกร็งแน่นถึงขีดสุด ความรู้สึกเจ็บราวกับร่างกายถูกฉีกออกทำให้เขากลั้นเสียงร้องเอาไว้ไม่อยู่

บุรุษแซ่เจ้าเห็นว่าเนื้อตัวลูกแมวน้อยของตนสั่นเทิ้มไม่หยุด จึงโอบกอดอีกฝ่ายแน่น ยิ่งเห็นน้ำตาของจิวเมิ่งเขายิ่งทำอันใดไม่ถูก

ข้าจะไม่ฝืนดันเข้าไป เสี่ยวเมิ่งอย่าร้องเลยนะ” จินเกอเห็นอีกฝ่ายหายใจหอบ น้ำตาไหลลงเปียกหมอนก็รู้สึกไม่ดี เขากดริมฝีปากจูบกระหม่อมบางของเสี่ยวเมิ่งอย่างแผ่วเบาพลางเอ่ยวาจาปลอบประโลมคนรัก


การกระทำทะนุถนอมเช่นนี้ทำให้จิวเมิ่งตื้นตันใจยิ่ง เขาสูดลมหายใจเข้าออกลึกเฮือกหนึ่ง รอคอยให้ความเจ็บปวดเบาบางลง ก่อนจะเอ่ยกล่าวให้อีกฝ่าย “ข้าอยากให้ท่านใส่เข้ามา...ทั้งหมด


พยัคฆ์หนุ่มได้ฟังเช่นนั้นก็กลืนน้ำลาย ลมหายใจถี่กระชันขึ้น พลางค่อยๆออกแรงดันเข้าทีละนิดๆ จิวเมิ่งขบเม้มริมฝีปากกลั้นเสียงร้อง พลางสูดลมหายใจเข้าลึกอีกหลายครั้ง จนพบว่าทั้งหมดนั้นอยู่ภายในตัวเขาแล้วก็อดประหลาดใจไม่ได้...

คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะรับทั้งหมดนั้นเข้ามาภายในตัวได้

 “เจ้าเจ็บมากไหม” เจ้าจินเกอบีบนวดเสะโพกของเขา เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

จิวเมิ่งส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะปิดเปลือกตาลง สัมผัสความรู้สึกแน่นอุ่นภายในตัว เขารู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่ทราบอย่างหนึ่งคือมันไม่ได้เจ็บเหมือนตอนที่จินเกอสอดใส่เข้ามาในตอนแรกแล้ว


เสี่ยวเมิ่งของข้า” จินเกอเห็นท่าทางโอนอ่อนผ่อนตามของเจ้าลูกแมวก็เริ่มขยับกายเข้าออก

เจ้าชินอ๋องดึงตัวเองออกมาจนเกือบสุด ก่อนจะดันกลับเข้าไปทั้งหมดเป็นจังหวะเชื่องช้าทว่าหนักหน่วง จิวเมิ่งส่งเสียงร้องออกมาตามจังหวะนั้นอย่างเสียวซ่าน เสียงครวญครางของคนที่อยู่ใต้ร่าง กระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าในตัวของพยัคฆ์หนุ่ม  

แม่ทัพเจ้าเพิ่มแรงกระแทก ออกแรงหนักหน่วงดุดันเพิ่มเรื่อยๆ เสียงร้องขององค์ชายน้อยเองก็เปลี่ยนจังหวะตามแรงกระแทกนั้น


 “อ่า ๆ ๆ...” ความสุขสุดขีดก่อตัวขึ้นที่ลำตัวส่วนหน้าของจิวเมิ่ง

องค์ชายน้อยถูกพรากสติไปจนแทบหมดสิ้น เมื่อจินเกอเอื้อมมือมาจับแท่นหยกของเขาชักเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกับแรงกระแทกด้านหลัง

เจ้าชินอ๋องใช้นิ้วขยี้ยอดอกของเขาอย่างไร้ปราณี จิวเมิ่งร้องครางจนเสียงแหบแห้ง อีกฝ่ายเห็นเช่นนั้นก็โน้มตัวลงมาจูบเขาจนอ่อนระทวย

ใต้ร่างพยัคฆ์ใหญ่ที่ยังกระแทกเข้าออกใส่ช่องทางด้านหลังของเขาไม่หยุดนั้นเจ้าลูกแมวถูกรุกล้ำปลุกเร้าจนสติเกือบจะหลุดลอยออกไปจากร่าง

ชอบที่กระหม่อมทำหรือไม่พะยะค่ะองค์ชาย” เสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ของแม่ทัพใหญ่เอ่ยกระซิบถามที่ใบหูเล็ก จินเกอกระแทกสะโพกเข้าออกอย่างแรงก่อนจะขบเม้มติ่งหูของเขาจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว

ชะ...ชอบ จินเกอข้ารักท่าน” จิวเมิ่งกล่าวตอบ ก่อนจะครางเสียงสั่น หายใจกอบ เมื่อถูกอีกฝ่ายเสียบลึกโดนจุดอ่อนไหวภายในร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า


ข้าเองก็รักเจ้า หลงเจ้าจนหัวปักหัวปำ” แม่ทัพใหญ่เพิ่มแรงกระแทกอีกเท่าตัว เสียงเนื้อกระทบกันดังป้าบๆ ความรู้สึกเสียวซ่านจู่โจมจิวเมิ่งจนอดหลั่งน้ำตาออกมามิได้ ทำได้เพียงเสียงร้องครางขาดๆหายๆ เห็นเช่นนั้นจินเกอจึงผ่อนจังหวะลง

พยัคฆ์หนุ่มส่งยิ้มเอ็นดูมาให้คนใต้ร่าง พลางกดจูบหางตาที่เปียกน้ำตาของเจ้าลูกแมว จินเกอกระทำทั้งหมดโดยที่ยังสอดตัวเข้าออกในร่างกายเล็กเป็นจังหวะไม่หยุดนิ่ง

เนื้อตัวของเจ้าลูกแมวแดงก่ำ ส่วนอ่อนไหวเริ่มหลั่งน้ำขาวขุ่นออกมาไม่น้อย องค์ชายสามเสียวซ่านจนน้ำตาเขาคลอเบ้าอีกหน

จะไม่ไหวแล้วท่านแม่ทัพจินเกอข้าจะไม่ไหวแล้ว!” จิวเมิ่งหอบหายใจร้องบอก ความรู้สึกพรั่งพรูไปทั้งร่าง ยิ่งถูกมือใหญ่รูดรั้งส่วนอ่อนไหวราวกับรีดนมวัวเช่นนี้ เขาใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางเต็มที

ข้าเองก็ใกล้จะถึงแล้วเสี่ยวเมิ่ง” แม่ทัพใหญ่กล่าวตอบเสียงกระเส่า


จิวเมิ่งหวีดร้องเมื่อเจ้าจินเกอเสียบลึกเข้ามาในร่างกายของตน แรงเสียดสีภายในกายป่วนปั่น แม่ทัพเจ้าโอบกอดเขาแน่นก่อนจะจุมพิตริมฝีปากของเขาแรงๆ

ไม่นานนักองค์ชายสามก็ปลดปล่อยเนื้อตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง อีกทั้งยังรู้สึกได้ว่าเจ้าจินเกอได้ปล่อยน้ำอุ่นสายหนึ่งอยู่ในร่างตน ทว่าเมื่อเสร็จแล้วแม่ทัพใหญ่ยังคงไม่ถอดกายออก ริมฝีปากยังขบเม้มสอดลิ้นพัวพันกับเขาไม่เลิก

จนจิวเมิ่งยกมือทุบอกแกร่งสองสามที พยัคฆ์หนุ่มจึงยอมถอนริมฝีปากออก น้ำใสเชื่อมติดมุมปากของจิวเมิ่งเป็นภาพที่ชวนให้ลุ่มหลง ทว่ากลิ่นคาวของโลหิตบังคับให้เจ้าจินเกอต้องหยุดมือ

เขาค่อยๆถอนตัวออกจากตัวของเจ้าลูกแมว จ้องมองแผลที่ต้นขาอย่างเคร่งเครียด