-nc- ภูผาไร้ใจสายน้ำเหือดแห้ง
เทียนฮั่วปลดเชือกรัดเอวออกเป็นอันดับแรก
มือเรียวสวยโยนอาภรณ์ตัวนอกที่คลุมกายออกอย่างไม่ใส่ใจ
องค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์คุกเข่าลงตามคำกล่าว
พระหัตถ์ล้ำค่าเอื้อมขึ้นมาแตะผิวเนื้อของเจ้าสุนัขจิ้งจอกอย่างแผ่วเบา
ลูบไล้ตั้งแต่ซอกคอหอมกรุ่นที่ทำให้ตนหลงใหลมาหลายครั้งหลายคา
ไล่ผ่านหน้าอกเนียนสัมผัสหยอกล้อที่เม็ดอัญมณีทั้งสองข้างอย่างสนุกมือเรียกเสียงครางในลำคอของคนที่นั่งอยู่เบื้องหน้าได้ไม่ยาก
“ข้ากลัวว่าม้าจะวิ่งเตลิดตกเขา” ซือจิ้นกล่าวราวกับเป็นกังวลยิ่ง
ทั้งที่ความจริงปลายนิ้วยังไม่ยอมปล่อยยอดอกของเทียนฮั่วให้เป็นอิสระ
“อาชาของข้าเป็นยอดอาชาพันธ์ดีมีชื่อ ซือจิ้น...อะเบาหน่อย
ก่อนที่ท่านจะห่วงว่ามันจะวิ่งเตลิดควรเป็นข้าเสียมากกว่าที่จะทนแรงมือของท่านไม่ไหว”
เทียนฮั่วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
เขาไม่คิดว่าซือจิ้นจะทำเช่นนี้กับตนในรถม้า ช่างแปลกใหม่เร้าอารมณ์ยิ่งนัก
“แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วหรือท่านประมุขหอบุปผชาติผู้ยิ่งใหญ่” บุรุษผู้หยิ่งยโสยิ่งกว่าผู้ใดในแว่นแคว้นเอ่ยวาจาเช่นนี้ราวกับว่าตลอดมามิเคยแสดงอาการเย็นชาต่อตนมาก่อน
นี่มิใช่ซือจิ้นที่คงเทียนฮั่วจะรับมือได้ง่ายๆ
องค์รัชทายาทโน้มตัวลงจรดริมฝีปากลงที่หน้าท้องของเทียนฮั่วปลายจมูกจมลงบนผิวเนื้อสีสวย
จูบซ้ำไปมาอย่างหลงใหล พระหัตถ์ทั้งสองบีบเค้นสะโพกแน่นของอีกฝ่ายก่อนจะก้มหน้าลงต่ำเริ่มสัมผัสสิ่งที่อยู่ใต้สะดือ
“ท่านทำเช่นนี้เสียเกียรติยิ่ง”
เจ้าสุนัขจิ้งจอกแตะปลายคางของผู้สูงศักดิ์ให้เงยพระพักตร์ขึ้นมองตน
ทว่าซือจิ้นกลับดึงมือของตนมาจับไว้เสียก่อน
“คนเสียเกียรติคือเจ้ามากกว่ากระมัง
ที่ผ่านมาเจ้าล่อลวงข้าเทียนฮั่ว ใช้ร่างกายนี้ยั่วยวนข้าราวกับปีศาจจิ้งจอก ร้องครวญคราญใต้ร่างข้าเสียน้ำตาราวกับสตรีในห้องหอ
ทั้งหมดนี้เป็นเกียรติของเจ้าต่างหากที่ถูกข้าทำลายคุณชายสามตระกูลคง”
องค์รัชทายาทเอ่ยวาจาร้ายกาจยิ่งคนไร้หัวใจยังคงเป็นว่าที่องค์จักรพรรดิแคว้นจิ่นผู้นี้ไม่เปลี่ยนแปลง
ดวงตาคู่งามที่เทียนฮั่วหลงใหลมองเรือนร่างของเขาด้วยสายตาว่างเปล่าจนน่าใจหาย เจ้าจิ้งจอกอึดอัดเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออก
“ซือจิ้น”
น้ำเสียงแหบถูกเค้นออกมาจากลำคอที่บัดนี้ช่างขมฝาดเพราะอาการขื่นขมในใจ
เขาเชิดปลายคางมองพระพักตร์ที่งดงามราวกับรูปสลักก่อนจะเอ่ยวาจา “ที่ผ่านมาในท่านไม่เคยมีข้าเลยใช่หรือไม่”
“ไม่เคย...ในใจข้าไม่เคยมีเจ้า
ไม่ว่าจะเป็นในอดีตหรือปัจจุบันและในอนาคตใจของข้าล้วนไม่เคยมีเจ้าอยู่”
“คนเยี่ยงท่านไร้ใจยิ่ง
ข้าทราบดีว่านอกจากบัลลังก์คงไม่มีที่ว่างให้สิ่งอื่นอีก แต่เป็นข้าเองที่คิดฝันไปเองว่าเสี้ยวหนึ่งในใจของท่านอาจมีข้าอยู่ในนั้น”
“ตื่นจากฝันของเจ้าเสียเทียนฮั่ว
สิ่งที่ทำให้ข้ายังต้องการเจ้าอยู่คือความฉลาดกับร่างกายเท่านั้น” พระหัตถ์อุ่นร้อนแตะลงที่ส่วนอ่อนไหวของประมุขหอนางโลม รูดรั้งขึ้นลงปลุกเร้าอารมณ์อย่างเอาแต่ใจ
“หัวใจของเจ้าข้าไม่ต้องการ”
“เป็นข้าที่ดันทุรังเอง
ครั้งนี้เองก็เช่นกัน” คงเทียนฮั่วหัวเราะให้กับความโง่เขลาของตน
ก่อนจะโน้มตัวแนบริมฝีปากลงปิดปากคนใจร้ายป้อนจูบให้อย่างดุเดือดถึงใจ ร่างกายแนบชิดจนเกือบจะรวมเป็นหนึ่งทว่าหัวใจกลับเจ็บปวดยิ่งจนน้ำตาใสไหลออกมาจากหางตา
“แยกขาออก”
น้ำเสียงทรงพลังเอ่ยสั่ง เขาทำตามอย่างไม่อิดออดซือจิ้นเห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างถูกใจ
องค์รัชทายาทมิได้สนใจน้ำตาเม็ดโตที่ประมุขนองนางโลมหลั่งออกมาแม้แต่น้อย
เมื่อเป็นเช่นนี้เทียนฮั่วจึงยกมือปาดน้ำตาออกก่อนจะกรีดยิ้มออกมาพลางยกมือลูบแผ่นอกของตนเองจรดลงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยที่เกิดจากการฝึกวรยุทธ์
จากนั้นมือสวยเลื่อนลงไปยังช่องทางด้านหลังที่ปิดสนิท ออกแรงเค้นคลึงเบิกทางต่อหน้ารัชทายาทผู้ไร้ใจอย่างยั่วยวน
“อย่างน้อยท่านก็ยังต้องการร่างกายนี้ของข้า
หากไม่ต้องการหัวใจข้าเป็นเรื่องของท่าน ข้ายินดีมอบให้แม้ในอนคตท่านไม่ต้องการมันก็เป็นเรื่องของท่านอีก
แต่จำเอาไว้นะซือจิ้น...เมื่อวันใดหัวใจดวงนี้กลายเป็นของล้ำค่าขึ้นมา
วันนั้นท่านจะต้องเสียใจแน่ที่ไม่ยอมรับมันไปตั้งแต่แรก”
คงเทียนฮั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม ประมุขหนุ่มหยิบกล่องน้ำมันหอมใบเล็กที่ซ่อนอยู่ในอกเสื้อของซือจิ้นมาเปิดออก
ก่อนจะใช้มันล่อลื่นช่องทางด้านหลังพลางส่งเสียงครางออกมาจนทำให้หวงไท่จื่อควบคุมสติไว้ไม่อยู่
“ใส่เข้ามาซือจิ้น เข้ามาในตัวข้า”
“เหตุใดต้องดื้อรั้นเยี่ยงนี้”
“เพราะท่านไม่รักข้าอย่างไรเล่า” เทียนฮั่วโอบรอบคอของว่าที่จักรพรรดิแนบริมฝีปากลงที่ใบหูขาวราวกับเนื้อหยกเบาๆ
เมื่อซือจิ้นถูกอีกฝ่ายยั่วยวนปลุกเร้ามาถึงขั้นนี้จึงไม่รอช้าอีก
ปลดเชือกรัดเอวที่เหนี่ยวรั้งอาภรณ์ไว้ออก รีบเร่งล้วงความเป็นชายของตนสอดใส่เข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนที่ถูกตระเตรียมมาแล้วอย่างรวดเร็ว
เทียนฮั่วหวีดเสียงเนื้อตัวสั่นเทิ้มสะดุ้งตัวโยนจนองค์รัชทายาทต้องกดศีรษะของเขาไปซบลงกับไหล่กว้าง
การกระทำเช่นนี้ราวกับเขาได้รับการปลอบประโลมจะอีกฝ่าย
ซือจิ้นอ่อนโยนเช่นนี้หัวใจดวงน้อยในอกสั่นไหวอย่างมีความหวังไม่น้อย
“ถึงข้าจะปากร้ายแต่ก็รู้จักรักษาของ” ดั่งกับว่าถูกอ่านใจเสียงทุ้มเอ่ยกล่าวในขณะที่ค่อยๆดึงสิ่งใหญ่โตออกอย่างเชื่องช้าก่อนจะดันเข้ามาใหม่
ทำซ้ำไปมาให้คนที่ซบบ่าแกร่งอยู่เกิดความเคยชิน
“แท้จริงท่านเห็นข้า อ๊ะ...เป็นสิ่งของหรือ” จังหวะเข้าออกหนักขึ้นจนประโยคที่เอ่ยถามปนด้วยเสียงร้องคราง
ซือจิ้นไม่ตอบกลับทันทีเพราะเอาแต่เสพสมกับความสุขความอุ่นร้อนภายในร่างกายที่บีบรัดอยู่
แรงกระแทกแรงขึ้นเรื่อย ๆ สอดรับกับแรงสั่นสะเทือนของรถม้า
“แล้วแต่เจ้าจะคิด อยากเป็นสิ่งของก็เป็นไปแล้วแต่เจ้า”
บุรุษรูปงามส่งเสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยแรงของอารมณ์ตอบกลับ
เมื่อเจ้าสุนัขจิ้งจอกได้ยินเช่นนั้นก็โอบรอบคอเกี่ยวขารั้งให้อีกฝ่ายแนบชิดยิ่งกว่าเดิม
“อื้อ...เช่นนั้นท่านคงต้องหวงสิ่งของด้วย
ห้ามยกข้า...อะ...ห้ามยกข้าให้ใคร” ซือจิ้นกระแทกกระทั้นเข้ามายังไม่ยอมผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย
ทำเอาเขาสำลักความสุขออกมาหยาดน้ำตาไหลลงตามอารมณ์เสียวซ่านที่ได้รับ ร่างกายสมส่วนของประมุขหอนางโลมอ่อนระทวยเมื่อถูกเสียบลึกถูกจุดอ่อนไหวภายในร่างซ้ำๆ
เขาปลดปล่อยออกมาเพราะทนแรงบีบคั้นไม่ไหว
เนื้อตัวร้อนขึ้นความรู้สึกพรั่งพรูไร้เรี่ยวแรงทว่าซือจิ้นยังตั้งหน้าตั้งตากระแทกท่อนเนื้อเข้ามาโดยไม่คิดว่าจะทำให้เขาเจ็บหรือไม่
รถม้าสั่นไหว อาชาพันธ์ดีทำหน้าที่ของมันได้ยอดเยี่ยมแรงกระทบกระเทือนจากล้อทั้งสี่ส่งต่อมาที่ภายในรถ
บุรุษทั้งสองที่ร่วมรักกันอย่างร้อนแรงไม่หยุดหย่อนไม่สนว่าอีกไม่นานจะถึงจุหมายเต็มที
“ข้าไม่มีวันยกเจ้าให้ใครแน่” ดวงตาคู่สวยจับจ้องไปยังใบหน้าของอดีตที่ปรึกษาของตนก่อนจะเร่งจังหวะสุดท้ายแล้วดึงส่วนใหญ่โตออกมาจากช่องทางด้านหลังที่เขาติดใจ
และปล่อยน้ำอุ่นสายหนึ่งลงบนหน้าท้องของคงเทียนฮั่ว โน้มกายลงแนบริมฝีปากลงบนลำคอหอมกรุ่นขบเม้มฝากรอยรักไว้แสดงความเป็นเจ้าของ
“จำไว้เทียนฮั่วเจ้าเป็นของข้า”
-กลับไปอ่านต่อที่เด็กดีค่ะ-
-กลับไปอ่านต่อที่เด็กดีค่ะ-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น